“บุหรี่ไฟฟ้า” หนึ่งในสิ่งที่อยู่ในระหว่างเส้นแบ่งเขตระหว่างผิด หรือ ถูก ของกฎหมายเพราะปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้านั้นก็ยังไม่เป็นของที่ถูกต้องตามกกฏหมาย ไม่ให้มีการสูบในที่สารธรณะ แต่สามารถสูบได้ในพื้นที่ปิด และ ก็ยังหาซื้อได้ด้วย แต่วันนี้ในบทความนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงความผิด หรือ ถูกของตัวบุหรี่ไฟฟ้ากัน แต่เราจะมาพูดถึงคนกลุ่มคนที่ต้องการ หรือ กลุ่มคนที่เหมาะจะเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้า ใช้มีใครบ้าง ? ลองมาดูกันดีกว่าครับ
คนที่ต้องการเลิกบุหรี่
ก่อนอื่นคนกลุ่มนี้นั้นต้องการที่จะเลิกบุหรี่แบบมวนจึงหันหน้ามาพึ่งบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีงานวิจัยและถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นสามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่ ? ซึ่งในส่วนนี้เราก็ยังไม่สามารถตอบได้แต่ถ้าหากคนที่ต้องการเลิกบุหรี่แบบเลิกขาดไม่ได้นั้นก็ควรหันมาเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้ก่อนเลยเนื่องจากระดับนิโคตินที่แตกต่าง เรียกง่ายๆ ว่า “ปลอดภัยมากกว่า” และที่สำคัญอันตรายน้อยกว่า โดยจากงานวิจัยของด็อกเตอร์ซาฮับ ที่ได้ทดลองนำคนติดบุหรี่ คนเลิกสูบบุหรี่และหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน และ ผู้ให้นิโคติน ผลจากการทดลองพบว่า NNAL (สารก่อมะเร็ง) ในบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีน้อยกว่าบุหรี่ปกติถึง 97 %
คนที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายโดยไม่เลิกบุหรี่
หากคิดเล่น ๆ คุณสูบบุหรี่วันละ 2 มวน ใน 1 ซอง มี 20 ตัว นั้นหมายความว่า 10 วันจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 60 บาท 1 เดือน ก็จะเป็นเงิน 180 บาท และถ้า 1 ปี ก็จะตีเป็นเงิน 2,160 บาท นี้คิดแบบมองโลกในแง่ดีเพียงวันละ 2 มวนนะครับ เพราะในชีวิตจริงนั้น ซึ่งจากสถิติของการสูบบุหรี่ (อ้างอิงจากหนังสือ สถิติเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ของคนไทย ในปี 2549) นั้นมีเพศชายสูบสูงสุดถึง 12 มวนต่อวัน แค่คิดเป้นรายจ่ายก็มี 0 หลายตัวแล้วนะครับ ซึ่งแตกต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีตั้งแต่บุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก ไปจนหลายราคา
ดังนั้นสำหรับคนสองกลุ่มนี้นั้นถ้าหากจะหันมาพึ่งบุหรี่ไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับถ้าหากอ้างอิงจากเหตุผลที่กล่าวไปเพราะว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นตอบโจทย์ในเรื่องของราคาที่มีตั้งแต่บุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก ไปจนถึงราคาสูง จึงทำให้ยืดหยุ่นเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า
